SCGP Newsroom

Deltalab S.L. ใน SCGP ร่วมกับ Meditop เดินหน้าผลักดันธุรกิจ Healthcare มุ่งสู่การเติบโตในภูมิภาคเอเชีย

SCGP นำโดย คุณกรัณย์  เตชะเสน Chief Operating Officer – Performance and Polymer Packaging Business และคุณธนิสสรา พัฒนวิบูลย์ Manager – Business Integration และ Deltalab S.L. ใน SCGP นำโดยMr. Jose Saez Mateos, Managing Director  และดร.พงษ์สุดา  ผ่องธัญญา Deputy Managing Director ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง Distribution Agreement กับบริษัทเมดิทอป จำกัด นำโดย ดร.สุวิมล  สังขธรรมวงศ์ Managing Director และภญ.พรทิพย์  เหลี่ยมมุกดา Vice President

โดยการลงนามครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างพันธมิตร ความร่วมมือและผลักดันการขยายธุรกิจด้าน Healthcare  ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลในวงการ Healthcare กับ Distributor รายใหญ่ของประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้า การผลิต และการให้บริการร่วมกันในอนาคตทั้งผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและการแพทย์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตร่วมกันในอนาคต

SCGP สร้างสรรค์ CIRCULAR DESIGN ในงานนิทรรศการระดับนานาชาติ

SCGP สนับสนุนแท่นวางโชว์ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล (Recycled Paper) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ สำหรับบูธแสดงผลงานของประเทศไทย หัวข้อ ‘Never-Ending Story: Thailand’s materials today and tomorrow” ภายใต้นิทรรศการ 2022 CIRCULAR DESIGN EXHIBITION ในโซน 360 – global collaboration ณ Taiwan Design Museum เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 3 กรกฎาคม 2565

 

โดย SCGP พัฒนาแบบแท่นวางโชว์ผลิตภัณฑ์ร่วมกับ Thinkk Studio ผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก The Creative Economy Agency (CEA) ให้เป็นผู้จัดทำบูธในครั้งนี้ โดยเน้นการออกแบบที่ง่ายต่อการขนส่งและการประกอบหน้างาน แข็งแรงและรับน้ำหนักได้ ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล และสามารถรีไซเคิลได้ เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

SCGP ต่อยอดความเชี่ยวชาญการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสู่การปลูกพืชสมุนไพรมูลค่าสูง เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “HOLIS by SCGP IM-MU Cap”

SCGP ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สู่การปลูกถั่งเช่าสีทองและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์ “HOLIS by SCGP IM-MU Cap” เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพที่ดีจากภายในสำหรับทุกคนในครอบครัว ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบธรรมชาติคุณภาพดีจากทั่วโลก รับประทานง่ายไร้กลิ่น วางจำหน่ายแล้วที่ร้าน SCGP Healthcare ใน e-marketplace ชั้นนำ และเว็บไซต์ www.doozyonline.com

บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ภายใต้แบรนด์ “HOLIS by SCGP IM-MU Cap” เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีจากภายในสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยนำประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร ตั้งแต่เยื่อกระดาษ กระดาษและบรรจุภัณฑ์ โดยมีบริษัท       สยามฟอเรสทรี จำกัด ใน SCGP ซึ่งเป็นผู้ผลิตยูคาลิปตัสสำหรับผลิตเป็นเยื่อกระดาษ มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการปลูกและผลิตด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ผสานความร่วมมือกับศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ของ SCGP ต่อยอดองค์ความรู้สู่การปลูกพืชและสมุนไพรมูลค่าสูง โดยเริ่มจากการปลูก “ถั่งเช่าสีทอง” ตั้งแต่ปี 2559 และนำมาสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร HOLIS by SCGP IM-MU Cap เกิดจากการมุ่งมั่นค้นหาวัตถุดิบธรรมชาติที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกอย่างพิถีพิถัน นำมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรฐานระดับสากลเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณประโยชน์ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ด้วยการผสาน 3 พลังจากสารสกัดพร้อมด้วยแร่ธาตุและน้ำมันจากธรรมชาติ ได้แก่ Astaxanthin จากสาหร่ายสีแดง ที่ผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยีการสกัดแบบซูปเปอร์คริทิคอลฟลูอิท ด้วยเครื่องสกัดแรงดันสูงเพื่อให้ได้สารที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เบต้ากลูแคน (Beta Glucan) สารคาร์โบไฮเดรตกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ที่พบได้มากในยีสต์ เห็ด หรือเห็ดทางการแพทย์ และเห็ดถั่งเช่าสีทอง (Cordyceps militaris) ผลิตด้วยขั้นตอนลิขสิทธิ์เฉพาะจาก SCGP เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด

จุดเด่นของ HOLIS by SCGP คือ (1) เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ SCGP โดยนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญการปลูกและผลิตด้วยเทคนิคเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ถั่งเช่าสีทองที่มีสาร Cordycepin คุณภาพสูงในปริมาณสม่ำเสมอ พร้อมทั้งผ่านการรับรองมาตรฐานสูงสุดในระดับสากล GHPs/HACCP 2020 (2) ปลอดภัยไว้วางใจได้ เนื่องจากเลือกใช้วัตถุดิบแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง ตรวจสอบย้อนกลับได้ และ (3) รับประทานง่าย ไร้กลิ่น พกพาสะดวก โดยออกแบบเป็น Soft Gel Capsule ไร้กลิ่น บรรจุในซองฟอยล์ขนาด 2 เม็ดต่อซอง อยู่ภายในกล่องแบบ Smart Packaging เพียงรับประทานเพียงวันละ 2 เม็ด หลังอาหารมื้อหลัก เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีจากภายใน ปัจจุบันสินค้ามีจำหน่ายที่ร้าน SCGP Healthcare บน e-marketplace, website : www.doozyonline.com หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : HOLIS by SCGP

วันสิ่งแวดล้อมโลกคืออะไร ?

วันสิ่งแวดล้อมโลกคืออะไร ?

ริเริ่มโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 5 มิถุนายน นับตั้งแต่ปี 1974 โดยวันสิ่งแวดล้อมโลกนี้เป็นเวทีระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสาธารณะด้านสิ่งแวดล้อมและมีการเฉลิมฉลองโดยผู้คนนับล้านทั่วโลก

#OnlyOneEarth มาจากไหน ?

“Only One Earth” เป็นสโลแกนของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์มในปี 2515 ซึ่งทำให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นวาระระดับโลก และนำไปสู่การก่อตั้งวันสิ่งแวดล้อมโลก

ทางเลือกที่เป็นไปได้ของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ?

ทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังเพื่อความยั่งยืนจะต้องมีความพร้อม ราคาจับต้องได้ และน่าสนใจ เพื่อให้ผู้คนสามารถตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตดีขึ้นในแต่ละวันได้ ประเด็นสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ วิธีใช้ชีวิตในบ้าน สังคม สถานที่ทำงานที่เราใช้เป็นประจำ การลงทุน และการทำกิจกรรมเพื่อพักผ่อน ต้องสามารถทำอย่างยั่งยืนได้

อย่างไรก็ตาม ภาคประชาสังคมยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักและปลุกจิตสำนึก แนะนำว่าต้องทำอะไร และใครควรรับผิดชอบ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริง

ร่วมสนับสนุนวันสิ่งแวดล้อมโลก 2022 และแคมเปญ #OnlyOneEarth คุณก็เป็นอีกคนที่สามารถช่วยให้โลกที่สวยงามแห่งนี้ยังคงเป็นบ้านที่น่าอยู่สำหรับมนุษยชาติ

SCGP ขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในไทยอีก 75,000 ตันต่อปี ตอบสนองดีมานด์รับเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดพร้อมดำเนินการผลิตกลางปี 2566

SCGP ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในประเทศไทยอีก 75,000 ตันต่อปี ด้วยงบลงทุน 2,450 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในกลางปี 2566 ชูระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation) และแอปพลิเคชันสำหรับการพิมพ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพตอบสนองความต้องการบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก รับแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว เสริมความแข็งแกร่งและต่อยอดความเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP เดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตัดสินใจขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก (Corrugated Carton) และแผ่นกระดาษลูกฟูก (Sheet Board) ในประเทศไทยอีก 75,000 ตันต่อปี เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการผลิต ตลอดจนนำเสนอโซลูชัน สินค้า และบริการ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น หลังภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัว ตลอดจนช่วยเสริมศักยภาพและผสานกำลังกับธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น คงความเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน

การลงทุนขยายกำลังการผลิตดังกล่าว ดำเนินการผ่านบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด (TCG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SCGP และ Rengo Company Limited ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วน 70:30 ตามลำดับ ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 2,450 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนในส่วนของเครื่องจักร การติดตั้งเครื่องจักร และเงินทุนหมุนเวียน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในกลางปี 2566

SCGP มั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยกระดับการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบหุ่นยนต์ (Robotic) ระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation) และระบบพิมพ์ที่มีความทันสมัยเข้ามาปรับใช้ นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้แข่งขันได้ดียิ่งขึ้นและยกระดับห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพ โดยการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้อยู่ภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ศูนย์รวมของกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ SCGP ประเมินความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยมาจากการขยายตัวของบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค อาทิ บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็งและอาหารแปรรูปเพื่อการส่งออก บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อสุขอนามัย รวมถึงการเติบโตของภาคการส่งออกจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล ตลอดจนการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อภาพรวมการใช้บรรจุภัณฑ์

SCGP มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยนำเสนอสินค้าบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ ตลอดจนให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยปัจจุบันมีฐานการผลิตรวมกว่า 50 แห่ง ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศมาเลเซีย สหราชอาณาจักร และประเทศสเปน

พรีแพคได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS การันตีมาตรฐานการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

บริษัทพรีแพค ประเทศไทย จำกัด ได้รับมาตรฐาน ISCC PLUS โดย International Sustainability and Carbon Certification หรือ ISCC เพื่อรับรององค์กรที่มีการจัดการคาร์บอนและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งพรีแพคถือเป็นบริษัทที่ 2 ใน SCGP ต่อจากบริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำทิศทางของบริษัทในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

บริษัทพรีแพค ประเทศไทย จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทอ่อนตัวสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ที่มีการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรอง ISCC เป็นวัตถุดิบในการผลิต มีการควบคุมตามระบบมาตรฐานที่ชัดเจนในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่กระบวนการจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่ได้รับการรับรอง ISCC  การตรวจรับ การจัดเก็บวัตถุดิบ และการควบคุมปริมาณ ตลอดจนการขายและการส่งมอบ จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากพรีแพค มีการใช้วัตถุดิบรีไซเคิล ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ตามหลักการควบคุมสมดุลมวลสาร (Mass Balance) 

การรับรองมาตรฐานนี้ สามารถยกระดับคุณภาพในการสนองตอบความต้องการต่าง ๆ ของลูกค้าสำหรับบรรจุภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้ในห่วงโซ่อุปทานในบริษัทได้อีกด้วย

คอนิเมก คว้ารางวัล Asia Pacific Supplier Award 2022 ด้าน Environmental Sustainability จาก Shell ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรอย่างยั่งยืน

บริษัทคอนิเมก จำกัด นำโดยคุณกรัณย์ เตชะเสน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ SCGP เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล Asia Pacific Supplier Award 2022 ด้าน Environmental Sustainability จาก Shell Lubricant Asia Pacific โดยคุณสุกัญญา ธีระวิบูลย์ Country Planning Manager – Thailand บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และทีม เป็นตัวแทนมอบ

บริษัทคอนิเมก จำกัด เป็น 1 ใน 14 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีความสามารถและโดดเด่นในด้าน Environmental Sustainability จากรายชื่อผู้เข้าร่วมคัดเลือกถึง 400 บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเชลล์เป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำระดับแนวหน้าของโลก ที่มีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรางวัลในด้าน Environmental Sustainability นี้ เป็นผลมาจากโครงการต่าง ๆ ที่ทำร่วมกัน รวมถึงการนำเสนอบรรจุภัณฑ์แกลลอนน้ำมันเครื่องฯ ที่มีส่วนผสมของ PCR 25% โดยโครงการทั้งหมด ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 439 ตัน คิดเป็น 17% จากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดที่เชลล์ลดได้ในภูมิภาคอาเซียนในปี 2021

รางวัลนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและยอมรับจากคู่ค้าระดับสากล เป็นเครื่องหมายในการยืนยันความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีของทั้งสองบริษัท ที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี

SCGP ได้รับการรับรอง CIRCULAR MARK เป็น 1 ใน 30 บริษัท กลุ่มแรกของประเทศไทย

CIRCULAR MARK พัฒนาขึ้นเพื่อการรับรองความเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนของผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สร้างมูลค่าให้แบรนด์สินค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่คำนึงถึงหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีคำแนะนำการใช้งาน รวมถึงการจัดเก็บวัสดุเหลือใช้หลังหมดอายุการใช้งานและส่งกลับเข้าสู่กระบวนการที่เหมาะสม พิจารณาถึงการใช้ทรัพยากร การสร้างขยะ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ดำเนินการพัฒนาภายใต้โครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาระบบฉลากสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์หมุนเวียนอันเป็นการส่งเสริมการหมุนเวียนวัสดุเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทย” โดยมี รศ.ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง ผู้อำนวยการวีกรีน คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการฯ ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมกับหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงโครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน หรือ กลุ่ม PPP Plastics ร่วมสนับสนุนทุนวิจัย ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรอาหาร วัสดุก่อสร้าง พลาสติก บรรจุภัณฑ์ และแฟชั่นไลฟ์สไตล์

5 ผลิตภัณฑ์นำร่องจาก SCGP ที่ผ่านการรับรอง CIRCULAR MARK ได้แก่
1. กระดาษถ่ายเอกสารไอเดียกรีน

2. ถุงกระดาษสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค

3. บรรจุภัณฑ์เฟสท์ ไบโอ

4. ถุงพลาสติกชนิดอ่อนตัวแบบ Laminated Mono-material (R1)

5. ขวดแชมพูสำหรับกลุ่มสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากพลาสติกใช้แล้ว PCR 100% ประเภท HDPE

บาส – ปอป้อ “THE POWER OF TEAMWORK”

ก้าวขึ้นเป็นนักแบดมินตันคู่ผสมมือหนึ่งของโลกเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา สำหรับบาส – เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และปอป้อ – ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย รวมถึงกวาดแชมปัมา 13 รายการ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ติดต่อกัน 6 รายการ ซึ่งรายการล่าสุดคือ คว้าเชมป์คู่ผสม แบดมินตันเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์300 “YONEX GAINWARD GERMAN OPEN 2022”
ถือเป็นอีกขั้นของความสำเร็จในเส้นทางลูกขนไก่ ที่ต้องฝ่าด่านการฝึกซ้อมอย่างหนัก วินัยที่เคร่งครัด ทีมเวิร์กที่ดี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน

จากเด็กที่สนุกกับการเล่นแบดมินตัน ลงสนามแข่งตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ขวบ เก็บตัวกับเอสซีจีเมื่ออายุ 14 ปี และติดเยาวชนทีมชาติตอนอายุ 18 ปี มาจับคู่กันในปี 2015 คว้า 11 แชมป์ใน 7 ปี จนเดินทางมาถึงวันนี้ ทั้งคู่แท็กทีมผ่านการแข่งขันมาหลายระดับ ผ่านบทเรียนทั้งแพ้และชนะมานับไม่ถ้วน

 

วินัยคือหัวใจของนักกีฬา

บาส: “กีฬาแบดมินตันต้องมีระเบียบวินัยครับ ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน การซ้อม เพราะตอนแข่งขัน เราจะเอาสิ่งที่ซ้อมมาใช้ให้ดีที่สุด วินัยเลยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามาตรงจุดนี้”

ปอป้อ: “โปรแกรมซ้อม จะมีทีมงานออกแบบวางแผนให้ ช่วงไหนหนัก ช่วงไหนเบา ไปแข่งแล้วจะรักษาร่างกายยังไงให้ฟิตได้ตลอดเวลา แต่เราก็ต้องหาวิธีผ่อนคลาย มีจังหวะพักให้เล่นกีฬาชนิดอื่น หรือวอร์มแบบอื่นบ้าง ส่วนหนึ่งเราต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะถ้าขาดตรงนี้ไป อาจจะทำให้เกมรวนได้”

คุยให้เคลียร์ วิธีคิดเพื่อทีมเวิร์ก

ปอป้อ: “ความกดดันเรื่องปกติ แต่เราจะโฟกัสว่าจะเล่นกันยังไงมากกว่า สื่อสารกันแบบไหน เพื่อให้เกมออกมาดีที่สุด ที่สำคัญคือ ต้องรู้ว่าพาร์ตเนอร์เราชอบหรือไม่ชอบอะไร ถนัดแบบไหน เพราะในการเล่นคู่กันต้องคิดเหมือนกันสอดคล้องกันในเกม ต้องมาคุยกันว่าเกมของเราคืออะไร จะได้เข้าใจตรงกัน”

บาส: “เราคุยกันตลอดทั้งเกมครับ ตั้งแต่ก่อนแข่ง ระหว่างเกม หรือหลังแข่ง ต้องรู้ใจกัน ถ้าใครบางคนตีลูกออกไปแล้วมันเหิน มันโด่งแล้วโดนอีกฝ่ายบุกกลับมา ก็ต้องช่วยกัน รับก่อน เพื่อที่ให้เกมกลับมาดีขึ้น ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายรับอยู่แล้ว จะบุกกลับไปอย่างเดียวต้องช่วยกันให้กลับมาอยู่ในรูปเกมที่ดี”

ปอป้อ: “เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็ไม่โกรธหรือโทษกัน พยายามใช้สมาธิ สติ ไม่เอาอารมณ์มาอยู่เหนือทุกอย่าง เพราะถ้าเรายิ่งใช้อารมณ์ก็จะยิ่งแย่”

กางจุดอ่อน พร้อมสร้างจุดแข็งใหม่

ปอป้อ: “การแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติค่ะ เมื่อแพ้เราต้องหาสาเหตุว่าเพราะอะไร เช่น ไม่มีสมาธิ ไม่นิ่งพอ บางครั้งอาจจะแกว่งไปมาตามอารมณ์ ในเกม ก็ต้องใช้เหตุและผลคุย แล้วก็ปรับกัน เวลาชนะเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ก็พัฒนาสิ่งที่ดีอยู่ ให้มันดีขึ้นไปอีก อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนถึงวันนี้จะเป็นที่หนึ่ง แต่เราก็ต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ”

บาส: “ในเกมมีเรื่องที่หลุดบ้างครับ เราไม่ได้ดีตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ยังมีบางแมตซ์ที่มีเสียบ้าง อาจมีลูกที่อีกฝ่ายตีมาแล้วเราไม่ชอบ เราก็จำลูกนั้นไว้แล้วมาฝึกซ้อม มีจุดที่เราทำดีอยู่แล้วแต่เราก็ต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก ต้องเพิ่มศักยภาพของตัวเรา”

มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

ปอป้อ: “เราสองคนยังมีเป้าหมายเดียวกัน วันนี้เราได้แชมบ์โลกก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของเรา ตลอดมาเราตั้งเป้าหมายกันไว้อยู่แล้วว่าเราอยากได้ครบทั้ง 5 รายการ เรายังต้องพัฒนาตัวเราเพื่อแมตช์ต่อ ๆ ไป”

บาส: “เรื่องท้อไม่มีครับ จะมีเรื่องความเหนื่อย ในเกมกับตอนซ้อม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เรารู้ว่าเหนื่อยเพื่ออะไร เรามีเป้าหมายที่พร้อมจะทุ่มเท ขณะที่เราได้แชมป์ก็ดีใจครับ พอผ่านไป ถือว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว เราต้องโฟกัสในแมตซ์หน้าที่กำลังจะมาถึง ไม่ยึดอยู่กับอดีตที่เราประสบความสำเร็จ ไม่ถึงขั้นกดดัน แต่เราต้องอยู่กับปัจจุบันครับ”

เสน่ห์ของแบดมินตัน

บาส: “แบดมินตันเป็นกีฬาที่ไม่ว่า คนรูปร่างแบบไหนก็เล่นได้ เป็นกีฬาที่ท้าทาย เพราะต้องคิดตลอดเวลาว่าจะตอบโต้ยังไง”

ปอป้อ: “แบดมินตันเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ ต้องใช้ไหวพริบแก้เกมกันไปมาตลอดเวลา ทั้งเร็ว ทั้งแรง และทำให้รู้สึกสนุกไปพร้อมกัน”

ส่งกำลังใจให้ทุกคนที่มุ่งมั่น

บาส: “แต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน ต้องหาสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่ตัวเองเก่งในด้านนั้น ถ้าทำได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นนักกีฬาแล้วต้องเป็นแชมป์อยู่ที่เราพอใจตรงไหน”

ปอป้อ: “อยากให้ทุกคนที่มุ่งมั่นในเส้นทางของตัวเอง ลงมือทำและตั้งใจทำจริง ๆ อาจจะมีอุปสรรคบ้าง อย่ายอมแพ้ เชื่อว่าทุกคนต้องประสบความสำเร็จ”

แนวคิดสำคัญสู่จุดหมาย

บาส: พยายามคิดบวก ไม่คิดลบ

ปอป้อ: ทำวันนี้ให้ดีที่สุดและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

 

 

ทั้งฮั่วซินกรุ๊ป พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็นผู้ผลิตในใจลูกค้า

“เวลา” เป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ได้ดีเสมอ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและเติบโตทางธุรกิจมาหลายช่วงเวลาความเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่ดีระหว่างบริษัททั้งฮั่วซิน จำกัด กับ SCGP ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึงสามทศวรรษ โอกาสนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณพีระพงษ์ ทังเกษมวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัททั้งฮั่วซิน พริ้นติ้ง เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัททีพีเอ็น แพคเกจจิ้ง จำกัด ภายใต้ทั้งฮั่วซิน กรุ๊ปสละเวลามาร่วมแชร์แนวคิดและประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ที่ทำให้ทั้งฮั่วซินกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่อย่างทุกวันนี้

 

จุดเริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว

ก่อนที่ธุรกิจจะเติบโต๋จนกลายเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ที่พร้อมรองรับความต้องการทุกรูปแบบได้นั้น คุณพีระพงษ์เล่าว่า ทั้งฮั่วซินมีจุดเริ่มต้นคล้ายกับหลายธุรกิจคือ การหมั่นมองหาโอกาสทางธุรกิจแล้วลงมือทำ

“ย้อนไปราว ๆ ปี 2496 เป็นช่วงที่ธุรกิจโรงพิมพ์กำลังบูม ตลาดมีความต้องการงานพิมพ์สูงมาก ถึงขนาดที่ส่งงานลูกค้าไม่ทัน ทำให้คุณพ่อเห็นโอกาสทางธุรกิจ และเกิดความคิดที่จะเปิดโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง ทั้งฮั่วซินจึงเริ่มเปิดโรงพิมพ์แห่งแรก โดยตั้งอยู่ที่วงเวียน22 กรกฎาคม ย่านเยาวราช รับงานพิมพ์ประเภทฉลากสินค้า ใบแทรกสมุดจด ใบเสร็จ ใบสั่งซื้อ นามบัตร ปฏิทินแบบฉีก รวมถึงการ์ดสำหรับงานพิธีต่าง ๆ และงานพิมพ์เอกสารทั่วไป วิธีการพิมพ์ยังเป็นแบบดั้งเดิมอยู่เลย”

นับจากนั้นมา ก็ค่อย ๆ เติบโตควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมไทย ที่มีการขยายตัวตามแรงผลักดันของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อุตสาหกรรมอาหารกระป๋องกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งฮั่วซินถือเป็นโรงพิมพ์บรรจุภัณฑ์รายแรก ๆ ที่เข้าไปตอบโจทย์ กระทั่งเปลี่ยนผ่านมาสู่ยุคของ Flexible Packaging ก็ได้ขยายบริการไปสู่โอกาสต่าง ๆ พร้อมทั้งปรับปรุงและขยายธุรกิจในเครือออกไปอีกหลายส่วน จนกลายมาเป็นโรงพิมพ์บรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่เป็นหนึ่งทางเลือกในใจของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบัน

 

“เทคโนโลยีสีเขียว” ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งฮั่วซินพัฒนาคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง และใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต ทั้งยังผ่านการทดสอบมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมจากหลายสถาบัน ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นและใส่ใจในการสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมีเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค

“เป้าหมายของเราคือ การเป็นผู้ผลิตที่ไม่สร้างมลภาวะให้โลกมากเกินไป เราจึงส่งเสริมเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างจริงจัง หรือแม้แต่การเป็นธุรกิจที่ไม่สร้างขยะแก่โลก เรื่องนี้คือจุดแข็งในการเข้าถึงลูกค้า ลูกค้ารายใหญ่ระดับองค์กรตระหนักเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างมาก ลูกค้าของเราเกือบทั้งหมดเป็นลูกค้าในประเทศ สัดส่วนยอดขายเป็นสินค้าประเภท Soft Packaging หรือ Flexible Packaging ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการค่อนข้างสูง

“ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดทวีความรุนแรงขึ้น เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เช่น การจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อหาโอกาสส่งเสริมธุรกิจให้ทันสมัย ตอบโจทย์ได้ตรงตามข้อกำหนดหรือความต้องการของลูกค้า และเรื่องของพาร์ตเนอร์ เรามี SCGP เป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านวัตถุดิบ มีซัพพลายเออร์ด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งพัฒนาความร่วมมือถึงระดับที่ส่งเสริมเกื้อกูลกัน หลักการคือ  มีการแซร์เทคโนโลยีและกลยุทธ์ร่วมกันอยู่เสมอ ทำให้เราติดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ทันเวลาช่วยกันสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ การมีพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้องค์กรเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น หูตากว้างขึ้น รู้เท่าทันสถานการณ์ได้รวดเร็วขึ้น

“วันนี้เรามีจุดแข็งในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ระดับหนึ่งแล้ว อนาคตเรามองหาโอกาสหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงการหาพาร์ตเนอร์มาเสริมจุดแข็งของเราอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอื่น เราก็ยังมองหาโอกาสอยู่ตลอดว่า อะไรบ้างที่จะมาเสริมทัพให้ธุรกิจและทำให้ผลิตภัณฑ์เรามีความหลากหลายและเติบโตยิ่งขึ้น”

 

พาร์ตเนอร์ที่ดูแลกันอย่างเข้าใจ

ความร่วมมือระหว่างทั้งฮั่วซินกับ SCGP นั้นก่อตัวขึ้นมานานหลายทศวรรษ ผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่องและการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพและไม่หยุดพัฒนา โดยสิ่งสำคัญที่ทำให้การเป็นพาร์ตเนอร์ราบรื่นและต่อเนื่องยาวนานคือ การดูแลกันอย่างเข้าใจ

“SCGP ช่วยดูแลเรื่องวัตถุดิบกระดาษ Duplex เป็นหลัก ต่างฝ่ายต่างช่วยกันต่อยอดธุรกิจ ร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ทำให้การทำงานรวดเร็ว รวมถึงการลดต้นทุน จนถึงปัจจุบันก็น่าจะราว 30 ปีแล้วที่ SCGP ดูแลเรา ที่ผ่านมาแม้จะมีวิกฤติ แต่เราก็ได้รับการซัพพอร์ตที่ดีมาตลอด ล่าสุดคือสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งเกิดปัญหาในซัพพลายเชนทั้งหมด แต่กับ SCGP พบปัญหาน้อยมาก เพราะมีการสื่อสารกันตลอด หรือพอเขารู้สถานการณ์ของเรา เขาก็ช่วยจัดการอย่างเต็มที่ เปลี่ยนความยากลำบากที่เจอให้ง่ายขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าไม่ได้เจอง่าย ๆ คือ SCGP เป็นองค์กรที่มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง คนที่ดูแลเราเมื่อ 30 ปีที่แล้วกับคนที่ดูแลอยู่ ณ ตอนนี้ก็ยังรู้จักกันอยู่ ทั้ง ๆ ที่คนที่ดูแลผมเมื่อ 30 ปีที่แล้วไม่ได้อยู่วงการนี้แล้ว แสดงถึงความต่อเนื่องในการบริหาร รู้จักลูกค้าอย่างลึกซึ้ง แม้แต่คนรุ่นใหม่ก็ยังรู้จักลูกค้ารุ่นเก่าเป็นอย่างดี นับเป็นจุดแข็งของเขาเลยครับ

“การทำธุรกิจระหว่างกัน ผมคิดว่า SCGP ดูแลเราอย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่น ๆ เช่น ปัญหาทางเทคนิคหรือคุณภาพกระดาษนั้นเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็ต้องช่วยกันพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ครับ”