SCGP Newsroom

จักร์จิตร กล่อมสิงห์ เดินหน้าเรื่อง Collaboration เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Sustainable Packaging

 

จักร์จิตร กล่อมสิงห์

เดินหน้าเรื่อง Collaboration เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Sustainable Packaging

ธุรกิจในยุคสมัยใหม่ที่ความท้าทายเกิดขึ้นรอบด้าน การ Collaboration ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ องค์กรต้องวางแนวทางให้เกิดขึ้นทั้งภายในองค์กร และกับคู่ค้าหรือลูกค้า เพื่อให้สามารถร่วมกันตอบโจทย์เทรนด์และสถานการณ์โลกปัจจุบันได้ วิธีการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของใจความสำคัญที่ พี่หนุ่ม – จักร์จิตร กล่อมสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ SCGP ได้หยิบยกมาแชร์ ใน P-DNA ฉบับนี้ นอกเหนือจากการแชร์แนวคิดการทำงาน เพื่อให้น้อง ๆ พร้อมสำหรับทุกโอกาสและความท้าทายที่เข้ามา

ยึดหลักความเป็นจริงในการทำงาน

จากเส้นทางของพี่หนุ่มที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 2532 หลังจากเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และการคว้าโอกาสเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุก ๆ 2-3 ปี พี่หนุ่มจะได้รับมอบหมายให้ย้ายไปประจำตามโรงงานต่าง ๆ ของ SCGP ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รับผิดชอบดูแลงานผลิต งานซ่อมบำรุง งานเทคนิคในกระบวนการผลิต ไปจนถึงโครงการขยายกำลังผลิตต่าง ๆ ก่อนจะขยับมาดูเรื่อง Business Development จนกระทั่งเติบโตในหน้าที่การงานสู่สายงานบริหาร

“หลักในการบริหารงานที่พี่ใช้มาตลอดตั้งแต่ยังเป็นวิศวกรเลยคือ ใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในการทำงาน และคอนเซปต์ 3G ของญี่ปุ่น GENBA GENBUTSU และ GENJITSU หมายถึงการทำอะไรก็แล้วแต่ ให้ไปดูของจริง ที่สถานที่จริง ด้วยวิธีการปฏิบัติและวิธีการแก้ไขที่เป็นจริง

“ขณะเดียวกัน พี่จะพยายามคิดบวก เชื่อว่าทุกอย่างเราทำได้ ถ้าทำแล้วได้ผลไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่จะไม่มองว่ามันล้มเหลว แต่จะกลับมาดูว่ามีจุดไหนที่ยังแก้ไขหรือพัฒนาได้ หาโซลูชัน หาแผนใหม่แล้วทำซ้ำ ถ้าบางครั้งมันล้มเหลวจริง ก็ต้องยอมรับ ไม่โทษใคร เปลี่ยนมาช่วยน้อง ๆ หาโซลูชันใหม่ที่รอบคอบกว่าเดิมขึ้นแทน

“การบริหารงานควบคู่กับบริหารคนก็มีความสำคัญมาก หลาย ๆ ธุรกิจที่พี่ไปบริหารมาจากการ Joint Venture เราต้องมีความเป็นธรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดซึ่งกันและกัน ถึงจะทำงานเป็นทีมได้ เมื่อครั้งที่ไปบริหารงานโรงงานกล่องที่ปราจีนบุรี มีพี่ท่านหนึ่งบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองนะ เพราะเรามีทีม เรามีคนที่คอยช่วยเหลือ ร่วมมือกัน ก็เลยเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดไปเลย การทำงานคนเดียวไม่สามารถทำได้สำเร็จ ต้องเรียนรู้เรื่องคน และการทำงานร่วมกับคน เวลาไปที่ใหม่ ก็ต้องเรียนรู้ในการปรับตัว การพัฒนาตัวเองของพี่ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่และปรับตัวอยู่ตลอด จะติดอยู่อย่างเดิมไม่ได้ บางทีไปต่างประเทศอาจจะเจอวัฒนธรรมใหม่ด้วย ก็ต้องเปิดใจเรียนรู้ไปกับทีม จึงจะสามารถทำงานให้สอดคล้องกันและพัฒนาไปด้วยกันได้”

เดินหน้าเรื่อง Collaboration เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Sustainable Packaging

“เรื่องสังคมคาร์บอนต่ำ การลดโลกร้อน ลดการปล่อยคาร์บอน การใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้วัตถุดิบ การใช้ซ้ำ สามารถนำมารีไซเคิลได้ (3R) สิ่งเหล่านี้คือ เทรนด์ของ Sustainable Packaging ที่ลูกค้าของเราหลายรายกำหนดเป็นนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ที่สหภาพยุโรป (EU) กำหนดให้ผู้ที่ทำธุรกิจหรือส่งของข้ามประเทศไปที่ยุโรป ต้องจัดทำรายงานข้อมูลปริมาณการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต และซื้อใบรับรอง CBAM (CBAM Certificate) ซึ่งเปรียบเสมือนการเก็บภาษีเพิ่มตามปริมาณการปล่อยคาร์บอน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือ ความท้าทายที่เราต้องเร่งหาทางบริหารจัดการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

“พี่จึงแยกกลยุทธ์ออกเป็น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ การ Collaborate ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสนับสนุนลูกค้าของ SCGP ที่ต้องการตอบโจทย์เทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อม และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ไปด้วยกัน ทุกวันนี้เราคำนวณค่าเฉลี่ย Carbon Emissions ในทุกกระบวนการผลิตของทุกโรงงาน โดยร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และกำลังจัดทำระบบที่สามารถ Declare ได้ว่า Packaging ที่ลูกค้าเลือกใช้มีค่า Carbon Emissions เท่าไร ขณะเดียวกันก็ดูว่า SCGP จะช่วยสนับสนุนลูกค้าได้อย่างไรอีก เช่น โซลูชันที่ลดการใช้วัตถุดิบ หรือการนำเสนอสินค้าที่ทำจากกระดาษและสามารถรีไซเคิลได้

“ยกตัวอย่าง Clixpak บรรจุภัณฑ์รวมหน่วยกระป๋องเครื่องดื่มที่ผลิตจากกระดาษแผ่นเดียว ด้วยคุณสมบัติของกระดาษและการออกแบบ ทำให้บรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี หยิบจับสะดวก สามารถหิ้วแพคเครื่องดื่มด้วยมือเดียว และง่ายต่อการคัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิล หรือการพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า ดิไซเนอร์ก็ต้องช่วยออกแบบให้ใช้วัตถุดิบน้อยลง ซึ่งการออกแบบแพคเกจจิ้งเหล่านั้นก็จะถูกซัปพอร์ตด้วยทีมผลิตอีกที เพราะฉะนั้นการ Collaborate มันเกิดขึ้นทุกส่วน

“เรื่องที่สองคือ การสร้าง Awareness เรื่องความยั่งยืนให้พนักงาน มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีการใช้วัตถุดิบน้อยลง มีการเอาพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ ปัจจุบันกิจการบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ SCGP ในประเทศไทยทั้งหมดนำ Solar Roof มาใช้ เอารถฟอร์กลิฟต์ไฟฟ้า (EV Forklift) มาใช้แทนรถแก๊สและน้ำมัน รถฟอร์กลิฟต์ในโรงงานเป็น EV ทั้งหมดแล้ว และกำลังศึกษาเรื่องการนำ Biomass เข้ามาใช้ในธุรกิจ

“เรายังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่ม Yield ลด Loss ลดการใช้วัตถุดิบ ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง การปล่อย Carbon Emissions น้อยลงตามไปด้วย เพื่อให้สินค้าสามารถตอบโจทย์เทรนด์ Sustainable Packaging ตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้า และธุรกิจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

ยืดหยุ่น เตรียมพร้อม คว้าโอกาสใหม่ ๆ เสมอ

“ทุกวันนี้เราขยายธุรกิจไปในหลายภูมิภาคแล้ว สิ่งสำคัญที่อยากจะฝากน้อง ๆ คือ ต้องรู้จักปรับตัว ย้ายตัวเองไปทำงานที่ไหนก็ได้ ออกจากกรอบเดิม ๆ ได้เสมอ เราควรยินดีที่ได้ไปทำงานในพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่แค่ในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็จะทำให้เราได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย

“ตอนนี้บริษัทอยู่ในช่วงเติบโต อยากให้น้อง ๆ เตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องความรู้และความสามารถ ไม่ว่าจะทางด้าน Functional หรือด้านการเป็นผู้นำ เพราะการเติบโตขององค์กรต้องมีเครื่องมือ นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา และโอกาสก็มีเข้ามาเสมอ น้อง ๆ ต้องพร้อมที่จะคว้าเอาไว้

“พี่เชื่อว่า ความโชคดีคือส่วนผสมของโอกาสกับความพร้อม การเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อโอกาสมา และจะดีกว่าถ้าเราเสาะหาโอกาสด้วย พี่มีโอกาสได้ไปทำงานหลายที่ แต่ก็เป็นลักษณะของการถูกเลือก แต่การเติบโตของบริษัทก็อาจจะมีเรื่องอาสาสมัครเพื่อไปทำงานในพื้นที่ท้าทายมากขึ้น ไม่ว่าโอกาสจะมาแบบไหน เราก็ต้องพร้อมเติบโตไปในอนาคต และอย่าลืมว่า ในการเติบโตนั้น การมีภาวะความเป็นผู้นำสำคัญมาก เป็นสิ่งที่คนคนนั้นควรต้องมีเพิ่มเติม นอกเหนือจากทักษะทางด้าน Functional ที่แต่ละคนมี พี่ก็อยากให้น้อง ๆ เตรียมตัวไว้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้นะครับ”

สร้างภาพลักษณ์ใหม่ บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางศิริราช

สร้างภาพลักษณ์ใหม่ บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางศิริราช

 

ทุกคนคงรู้จักโรงพยาบาลศิริราชในฐานะสถาบันการแพทย์ในระดับสากลที่มุ่งมั่นยกระดับด้านสุขภาพให้กับประชาชนไทยมาอย่างยาวนาน แต่อาจจะยังไม่ทราบมาก่อนว่า โรงพยาบาลศิริราชได้ต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้ลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลศิริราชและผ่านการจัดจำหน่ายโดย “บริษัทศิริราชบำรุงเวช” ภายใต้การดูแลของศิริราชมูลนิธิ ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อย ซึ่งเร็ว ๆ นี้บริษัทศิริราชบำรุงเวชได้ร่วมมือกับ SCGP ในการสร้างภาพลักษณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าให้การพลิกโฉมครั้งนี้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ และขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต

เครื่องสำอางที่คิดค้นเพื่อคนไทย

ศ. ดร. นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ให้เกียรติมาเปิดเผยเรื่องราวการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้ลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลศิริราชและจัดจำหน่ายโดย “ศิริราชบำรุงเวช” ให้ทุกคนได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มารับบริการด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญแล้ว ยาและเวชภัณฑ์ยังนับเป็นอาวุธในการรับมือกับอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ อีกด้วย

“ยาและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับให้ผู้ป่วยใช้ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยปกติเรานำเข้ายาจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ แต่ก็มียาและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกกลุ่มหนึ่งที่ศิริราชต้องผลิตขึ้นเองเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้ป่วยบางกลุ่มอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่เกือบ 20 ปีก่อน โดยฝ่ายเภสัชกรรมฯ ร่วมกับอาจารย์แพทย์ผู้ทำการรักษาผู้ป่วย”

จากก้าวแรกในการใช้รักษาผู้ป่วยกลุ่มเล็ก ๆ ผ่านการพิสูจน์ผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม จนทำให้โรงพยาบาลศิริราชได้ต่อยอดองค์ความรู้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพชนิดต่าง ๆ มากมาย ทั้งกลุ่มที่เป็นยารักษาโรค รวมถึงกลุ่มเครื่องสำอาง

“เรามีครีม โลชั่น สบู่ แชมพูต่าง ๆ รวมไปถึงครีมทากันแดดที่ไม่ใช้สารเคมี (Physical Sunscreen) ที่ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินที่เข้ารับการฉายแสงอาทิตย์เทียมก็สามารถใช้ได้ หรือผู้ป่วยที่ต้องการใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เรายกระดับการตอบสนองต่อผู้ป่วยที่มีปัญหาของโรคในหลายระดับและมีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของแพทย์และผู้ป่วยให้มากที่สุดในราคาที่เหมาะสม”

ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด

ด้วยผลลัพธ์การใช้งานที่ดีในกลุ่มผู้ป่วยของโรงพยาบาล มีการพูดถึงแบบปากต่อปากไปสู่ประชาชนทั่วไป ทำให้มีความต้องการมากขึ้น จากเดิมที่มีผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่รายการ ในวันนี้บริษัทศิริราชบำรุงเวชมีรายการสินค้า มากกว่า 10 รายการ และกำลังพัฒนาอีกหลายผลิตภัณฑ์ เพื่อออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด โดยผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่  1. เครื่องสำอางที่ผ่านการจดแจ้งกับกองควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประชาชนสามารถซื้อใช้เองได้อย่างปลอดภัย 2. ยาหรือเครื่องสำอางที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนใช้

“เราไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องการทำธุรกิจเป็นหลัก ความตั้งใจของเราคือ การส่งมอบผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเห็นผลให้ประชาชนได้ใช้ ในช่วงต้นเราผลิตเองในโรงพยาบาลได้จำนวนจำกัด เมื่อมีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ผิวพรรณ หรือการดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจำนวนมาก เราจึงขยายการผลิตด้วยโรงงานรับจ้างผลิตที่มีมาตรฐานสูง และควบคุมให้ได้คุณภาพของโรงพยาบาลอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันในกลุ่มยาเรายังคงผลิตอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรคที่ไม่มีบริษัทยาผลิต แม้ว่าจะใช้จำนวนน้อยและไม่ตอบโจทย์ในแง่ธุรกิจ”

Rebranding ขยายฐานลูกค้าเก่า มัดใจลูกค้าใหม่

“ปัจจุบันการจำหน่ายสินค้ามีเรื่องต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป เราก็ควรต้องปรับเปลี่ยนตาม เพราะเมื่อมีสินค้าที่คุณภาพดีแล้ว ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้รู้จักและเข้าถึงได้ด้วย เมื่อเขาได้ใช้ผลิตภัณฑ์เรามากขึ้น ทำให้เราหันมาสนใจในเรื่องตราสินค้า เรื่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีความสำคัญมากในยุคสมัยนี้ ตัวอย่างหนึ่งในอดีต เรามี Soft Care Plus ที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นลักษณะฝาเกลียว หมุนเปิดออกแล้วบีบ หรือแชมพูที่ฝาขวดเป็นแบบเปิดปิด ยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีและคนนิยมมากจนแทบจะผลิตไม่ทัน เราเลยหาพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ให้คำแนะนำถึงการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น และเก็บรักษาสินค้าได้อย่างคงทน ซึ่งเราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะในอนาคตเรายังมองความต้องการของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดี ปลอดภัยต่อการนำไปใช้ ออกมาให้ประชาชนเพิ่มมากขึ้น”

พาร์ตเนอร์ธุรกิจที่แก้ไขปัญหาอย่างรู้ใจ

“เรามองว่ามีเพียง SCGP เท่านั้นที่สามารถตอบโจทย์นี้ให้กับเราได้ และเชื่อว่าจะเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เรา SCGP เข้ามาช่วยออกแบบให้สวยงาม น่าใช้ แต่ยังคงความน่าเชื่อถือ และเป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น ทั้งตราสินค้า โลโก้ และการจัดวางลวดลายบนผลิตภัณฑ์ดูเข้ากัน เป็นธีมเดียวกันหมดทุกผลิตภัณฑ์

“ระหว่างการทำงาน สิ่งที่ทางเราประทับใจมากคือ SCGP มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน เข้าใจความต้องการของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย การพูดคุยประสานงานกันก็ราบรื่นเหมือนเคยทำงานกันมานาน SCGPพยายามทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ นำข้อมูลของเราไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ออกมา เหมือนกับ SCGP รู้ว่าพวกเราคิดอะไร และกำลังต้องการอะไร จนกลายเป็นแบรนด์ที่พวกเราทุกคนถูกใจมาก แล้วก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าประชาชนก็น่าจะชอบเหมือนกัน และผมรู้สึกว่างานของพวกเรายังไม่จบแค่นี้ เรายังวางแผนร่วมมือกับ SCGP ในการทำบรรจุภัณฑ์รูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำกล่อง หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการแพทย์ที่เราจำเป็นต้องใช้ในอนาคตอีกอย่างแน่นอน

“ช่องทางการจำหน่ายสินค้าในปัจจุบันนอกจากที่หน้าร้านแล้ว ประชาชนทั่วไปยังสามารถเลือกชมและสั่งซื้อสินค้าของศิริราชบำรุงเวชโดยตรงทาง Official Website (www.sirirajbrv.com) รวมถึงตามแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่าง ๆ ได้ด้วย เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาโดยคนไทยเอง ไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ ทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างเงินหมุนเวียนภายในประเทศให้มากขึ้นทางหนึ่งด้วยครับ” คุณหมอยงยุทธกล่าวทิ้งท้าย

 

“ศิริราช” เครื่องสำอางของคนไทย ในบรรจุภัณฑ์ลุคใหม่ เพิ่มความสะดวก ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม

หากให้เอ่ยถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมีราคาจับต้องได้ ศิริราชเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทุกคนจะต้องนึกถึง 

 

เดิมทีผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ “ศิริราช” เป็นสูตรเฉพาะของโรงพยาบาลขึ้น ในการดูแลผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 2548 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลศิริราช เช่น แชมพูสำหรับผู้มีปัญหาหนังศีรษะ ครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เป็นต้น ส่งผลให้ในเวลาต่อมา “ศิริราช” ทำการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับประชาชนทั่วไป และสร้างยอดขายต่อเนื่องทั้งในส่วนของหน้าร้านรวมถึงช่องทางออนไลน์ ถึงขนาดต้องทำการสั่งจองกันล่วงหน้า หากอยากมีผลิตภัณฑ์ของ “ศิริราช” ไว้ในครอบครอง

 

จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์
โรงพยาบาลศิริราช มีความประสงค์ที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ของศิริราชให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แรงบันดาลใจ “เมื่อหยิบขึ้นมาใช้นแล้วรู้สึกมั่นใจ และสะดวกสบาย” แต่ยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และราคาที่ทุกคนสามารถจับจองได้

 

ผ่านการระดมสมองร่วมกัน
ตอนแรก “ศิริราช” ปรึกษากับทีมผู้ออกแบบจาก SCGP เพื่อเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้าตัวชูโรง (Hero Product) 
หลังจากทีมผู้ออกแบบของ SCGP ได้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านการลงพื้นที่และสอบถามผู้ซื้อจริง ทำให้ SCGP เล็งเห็นโอกาสที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ของ “ศิริราช” และเสนอให้ทำการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ 
ขณะเดียวกัน ศิริราชได้ให้ SCGP ร่วมคิดร่วมพัฒนาได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ความร่วมมือครั้งนี้ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทีมผู้ออกแบบจาก SCGP และ ศิริราช ได้ปรับเปลี่ยนให้เข้าถึงทุกกลุ่ม, เพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน, เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือต้องคงคุณภาพของเครื่องสำอาง

 

เริ่มลงมือ
SCGP เริ่มจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีทั้งเวอร์ชันภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยนำตัว “S” มาจัดวางให้เป็นตัวอักษร “ศ” ผ่านการใช้เทคนิค Perfect Balance Shape พร้อมกับสีฟ้าอ่อนที่ดูสุขุม นุ่มนวล แต่เข้าถึงง่าย ใช้ง่าย สีประกอบคือสีเทาอ่อนโทนสะอาด เพื่อทำให้สีสันของภาพรวมกลมกล่อมและดูสะอาดสดชื่น เข้ากับผลิตภัณฑ์ของศิริราชได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนต่อไปคือการเข้าไปปรึกษากับ Conimex ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ใน SCGP เพื่อเลือกบรรจุภัณฑ์ชั้นใน (Primary packaging) ใหม่ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของ “ศิริราช”

 

ทีมผู้ออกแบบของ SCGP และ Conimex ได้ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิมจนเกินไป เพราะคำนึงถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีความภักดีต่อแบรนด์ “ศิริราช”
นอกจากนี้ ยังเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ได้แก่ Monomaterial ที่มาจากพลาสติกที่ทนทานต่อการใช้งานได้ดี โดยผลิตจากเม็ดพลาสติกที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ช่วยลดความหนาของบรรจุภัณฑ์ ลดการใช้ทรัพยากรและลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้

 

และยังมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ขั้นที่สอง (Secondary packaging) เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อสินค้ามากขึ้นผ่านการออกแบบที่สวยงาม สะดุดตาและแน่นอนว่าบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งสินค้า (Tertiaty packaging) ของ “ศิริราช” ทั้งหมดก็ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรง ทนทานมากขึ้น เหมาะกับการขนส่ง และขายผ่าน E-commerce ด้วยเช่นกัน

SCGP ครอบคลุมทุกขั้นตอนการผลิตบรรจุภัณฑ์
จะเห็นได้ว่าตั้งแต่กระบวนการแรกที่ SCGP เข้ามารับหน้าที่รีแบรนด์ให้แก่ “ศิริราช” สิ่งที่ SCGP ตั้งมั่นไม่ใช่เพียงแค่พัฒนาสินค้า 
แต่ SCGP คิดครอบคลุมถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค ด้วยพื้นฐานการทำงานแบบ Proactive ตอบสนองทุกความต้องการของทุกคนในทุกมิติ 

 

ผู้ประกอบการรายใดที่สนใจอยากมีผู้ดูแลและคอยให้คำปรึกษาเรื่องบรรจุภัณฑ์สินค้า ตั้งแต่การคิดไอเดีย การผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งซื้อขนาดเล็กหรือปริมาณมาก SCGP พร้อมให้บริการและโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
 

SCGP ปิดดีลถือหุ้นร้อยละ 70 ใน Starprint Vietnam JSC รุกบรรจุภัณฑ์กระดาษพรีเมียมคุณภาพสูงในอาเซียน

SCGP ปิดดีลเข้าถือหุ้นร้อยละ 70 ใน Starprint Vietnam JSC ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษพรีเมียมคุณภาพสูงในประเทศเวียดนาม ที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นบริษัทระดับชาติและระดับโลก เพิ่มศักยภาพการให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในอาเซียน

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ได้เข้าถือหุ้นร้อยละ 70 ใน Starprint Vietnam JSC (SPV) แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เพื่อรุกขยายฐานบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ (Offset Folding Carton) ในประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพเติบโตสูง รองรับตลาดในเวียดนามและภูมิภาคอาเซียน โดยการลงทุนดังกล่าวได้ดำเนินการผ่าน SCGP Solutions (Singapore) Pte. Ltd. (SCGPSS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 676.08 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 987.07 ล้านบาท และจะเริ่มแสดงผลประกอบการของ SPV ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทสตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Starflex ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ชั้นนำที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ถือหุ้นร้อยละ 25 ใน SPV และผู้ถือหุ้นเดิมของ SPV จะถือหุ้นร้อยละ 5 หลังจากการทำธุรกรรมครั้งนี้เสร็จสิ้น

 

SPV ถือเป็นผู้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์แบบพับได้ชั้นนำในประเทศเวียดนาม มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ด้วยระบบพิมพ์แบบออฟเซ็ท  16,500 ตันต่อปี และกล่องบรรจุภัณฑ์แบบคงรูป 8 ล้านกล่องต่อปี จากฐานการผลิต 2 แห่งในนิคมอุตสาหกรรม Long Binh (Amata) ในจังหวัด Dong Nai ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับชาติและระดับโลก ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปี 2565 SPV มีรายได้ 1,013 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 1,480 ล้านบาท มีกำไรรวมหลังหักภาษีประมาณ 92.5 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 135 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 601 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 885 ล้านบาท

 

“SPV จะเป็นฐานการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์คงรูปคุณภาพสูง (Rigid Boxes) แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนของ SCGP และเป็นฐานการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์แบบพับได้แห่งแรกในประเทศเวียดนามของ SCGP ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรของ SCGP ให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าในประเทศเวียดนามและภูมิภาคอาเซียน และยังสนับสนุนการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างธุรกิจของ SCGP ที่ดียิ่งขึ้นในระดับภูมิภาค” นายวิชาญ กล่าว

กระเช้าปีใหม่สุดรักษ์โลก ล้านประโยชน์ SCGP Packaging New Year Hamper

นับถอยหลังสู่สิ้นปี เทศกาลแห่งการส่งต่อความสุขกำลังกลับมาอีกครั้ง ใครที่กำลังมองหาของขวัญให้กับคนสำคัญ เชื่อว่าในทุก ๆ สิ้นปีคุณจะเจอโจทย์ยาก 
 
“ซื้ออะไรดี” 
 
“อะไรจะเหมาะกับคนที่เราอยากให้”
 
“อยากซื้อของขวัญให้คนสำคัญแบบสวย ๆ แต่ก็มีประโยชน์ด้านการใช้สอยด้วย”
 
ปัญหานี้จะหมดไปเพราะกระเช้าปีใหม่จาก SCGP  โดยทีมนักออกแบบของ SCGP  ได้ออกแบบตัวกระเช้าของขวัญที่มีรูปทรงที่โดดเด่น สามารถพิมพ์ลวดลายที่สวยงามตามลูกค้าต้องการ ตอบโจทย์การ Customization ของผู้บริโภค คง Concept เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากตัววัสดุที่ใช้ทำจากกระดาษสามารถนำมาใช้งานต่อ เป็นการ upcycling อย่างแท้จริง รวมถึงสามารถนำไปย่อยสลายได้ง่ายตามกระบวนการ recycle นอกจากนี้ ทางทีมงานยังมีการใช้ตัวมือจับที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลนำมาถักทอโดยชุมชนบริเวณใกล้เคียงของโรงงาน ส่งเสริมอาชีพและรายได้ชุมชนอีกด้วย
 
โดยกระเช้าออกแบบมา 2 เวอร์ชัน คือ Cherish Hamper และ Splendid Hamper 
 
Cherish Hamper ออกแบบโดย ภูมิภัค พันธสี และณิชารีย์ เหรียญทอง เป็นกระเช้าแบบที่ไม่มีด้ามจับ รูปทรงออกแบบมาถูกใจวัยรุ่นและดูกะทัดรัด ซึ่งจริง ๆ แล้วตัว Cherish Hamper สามารถให้เป็นของขวัญได้ทุกโอกาส
 
ส่วน Splendid Hamper ออกแบบโดย อติกานต์ บุญประคอง และกฤชพร กุลรัตนรักษ์ ก็ตรงตามชื่อ คำว่า Splendid หมายถึงโอ่โถ่ง, อลังการ ยึดรูปทรงจากกระเช้าแบบเดิม แต่ออกแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น 
 
ซึ่งตัวกระเช้าทั้งสองเวอร์ชัน แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะต่างกัน แต่คุณสมบัติสมบูรณ์แบบเดียวกัน เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ใช้ใส่สิ่งของที่นำมาจัดวางเป็นของขวัญแล้ว ยังสามารถแปลงเป็นเวิร์คสเตชันสไตล์มินิมอล เพียงแค่ถอดด้ามจับของกระเช้าออก คุณก็จะสามารถแยกตัวกระเช้าออกมาได้เป็น 3 ส่วน
 
ในส่วนตัวกล่องที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นฐาน นำมาเป็นชั้นวางหนังสือได้ ด้วยตัวผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงที่สุดในบรรดา 3 ส่วน ประกอบกับการเจาะทำช่องเพื่อให้สอดมือจับยกเคลื่อนย้ายได้อย่าง สะดวก 
 
ขยับมาที่กล่องรองชั้นด้านใน นำมาเป็นที่ตั้งโน๊ตบุ๊ค หรือ แท็บเล็ตได้ เนื่องจากออกแบบมาในลักษณะชั้นครึ่ง สามารถตั้งชั้นโน๊ตบุ๊คได้ และสามารถวางคีย์บอร์ดไว้ที่ตัวฐานด้านล่างได้ด้วย 
 
และส่วนสุดท้ายกับกล่องชั้นบนสุดเมื่อแยกออกมาจะกลายเป็นกล่อง เก็บของที่มีฝาปิดแบบเป็นระเบียบ คนที่เป็นผู้ให้มั่นใจได้เลยว่า เมื่อคุณให้กระเช้าปีใหม่ SCGP Packaging New Year Hamper กับใครสักคน ผู้รับจะได้ทั้งกระเช้าและอุปกรณ์ประดับโต๊ะทำงานสวย ๆ ด้วย
 
ถือได้ว่าผลิตภัณฑ์กระเช้าปีใหม่ของ SCGP มีไอเดียสร้างสรรค์ ดีต่อใจและสิ่งแวดล้อมโดยตรง ทั้ง 100% RECYCLABLE (นำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ 100%) ส่งเสริมชุมชน และนำสิ่งที่ใช้แล้ว กลับมาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม
 
ผลิตภัณฑ์ไอเดียเจ๋ง ๆ นี้ ผ่านด่านจนกลายเป็นผู้ชนะในงาน WORLD CORRUGATED AWARDS 2021 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติของอุตสาหกรรมกระดาษลูกฟูก จัดขึ้นโดย RX อันเป็นที่ยอมรับของสมาคมอุตสาหกรรมในระดับโลก ในการออกแบบ การเลือกวัสดุ การตลาด การจัดการ และความรับผิดชอบต่อสังคมแห่งปี เพื่อมอบรางวัลแก่บริษัท ทีมงาน และบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมกระดาษลูกฟูกทั่วโลก

 

รวมพลัง จิตอาสาพัฒนา SCGP “ปลูก ลด ร้อน” เพิ่มพื้นที่สีเขียว ป่าชุมชนกาญจนบุรี เนื่องในวันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดกาญจนบุรี พนักงาน SCGP ชุมชนจิตอาสา พร้อมด้วย 3 โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก โม – เม – เมียว ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา โครงการ SCGP “ปลูก ลด ร้อน” ปลูกต้นไม้ 999 ต้น และสร้างฝายชะลอน้ำ 9 ฝาย เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 และวันดินโลก

 

นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนา โครงการ SCGP “ปลูก ลด ร้อน” ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดกาญจนบุรี และ SCGP ร่วมปลูกต้นไม้ 999 ต้น และสร้างฝายชะลอน้ำ 9 ฝาย ณ ป่าชุมชนบ้านหนองหิน-เขาสูง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในวันที่ 5 ธันวาคม และวันดินโลก และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ SCGP ด้านการส่งเสริมความยั่งยืนตามกรอบ ESG เพื่อสร้างสมดุลในทุกมิติ

 

ป่าชุมชนบ้านหนองหิน-เขาสูง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีขนาดพื้นที่ 895 ไร่ เป็นป่าที่ SCGP ได้ร่วมกับราชการและชุมชนในพื้นที่ร่วมอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องจากเป็นแหล่งต้นน้ำให้กับชุมชนโดยรอบ การฟื้นฟูผืนป่าและเพิ่มต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนต้นน้ำในครั้งนี้ จะทำให้หมู่บ้านในพื้นที่มีแหล่งน้ำใช้ มีน้ำและดินที่อุดมสมบูรณ์เพื่อการเพาะปลูก สามารถสร้างรายได้จากการทำเกษตรกรรมและมีอาหารที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ด้วย

 

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ ผู้นำชุมชน พนักงาน SCGP และชุมชนจิตอาสารวมกว่า 500 คนเข้าร่วม นอกจากนี้ โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก ได้แก่ “โปรโม”-โมรียา จุฑานุกาล “โปรเม”-เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรเมียว”-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นตัวแทนและแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ในการส่งมอบแรงบันดาลใจในการรักษ์โลก และมาช่วยกันดูแลโลกใบนี้ด้วยการปลูกต้นไม้ร่วมกัน

 

SCGP ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของต้นไม้ ตัวช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยรักษาฟื้นฟูระบบนิเวศตามธรรมชาติ และคืนความสมดุลให้กับความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการดำเนินกิจกรรม SCGP “ปลูก ลด ร้อน” เพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ต่าง ๆ โดยในปี 2566 SCGP ได้ปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศในจังหวัดต่าง ๆ รวมกิจกรรมครั้งนี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 56,721 ต้น และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก พร้อมส่งต่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป

SCGP เปิดโรงงานแห่งใหม่ของ Peute เพิ่มความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิลอีกเท่าตัว รองรับการเติบโต เสริมแกร่งบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Peute Recycling B.V., member of SCGP จัดพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ ที่เมืองอัลบลาสเซอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ติดท่าเรือรอตเตอร์ดัม แหล่งยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดหาวัสดุรีไซเคิลได้อีกเท่าตัว ประกอบด้วย วัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (Recovered Paper: RCP) เพิ่มปริมาณเป็น 2 ล้านตันต่อปี และพลาสติกรีไซเคิลเพิ่มปริมาณเป็น 0.2 ล้านตันต่อปี 

การเปิดฐานการผลิตใหม่ในครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของ SCGP ที่ช่วยสร้างความมั่นคงและเสริมประสิทธิภาพในการจัดหาวัตถุดิบในระยะยาว เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกกลุ่ม ทั้งด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำ ปลายน้ำ และการบูรณาการภายใน เพื่อนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และรองรับความต้องการด้านวัสดุรีไซเคิลในตลาดโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

‘SCGP’ คว้ารางวัลสุดยอดองค์กรยั่งยืนและสร้างสรรค์นวัตกรรมยอดเยี่ยมจาก SET

SCGP มุ่งสร้างความยั่งยืนพร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรม ล่าสุด คว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยม SET Awards 2023 ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภทรางวัล Best Sustainability Awards และในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภทรางวัล Best Innovative Company Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รวมถึงการได้เรตติ้งหุ้นยั่งยืนระดับ AAA จาก SET ESG Rating สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและสร้างความยั่งยืนแก่โลก สร้างความเชื่อมั่นและยอมรับในตลาดทุนไทยและต่างประเทศ

 

SCGP ได้รับรางวัล SET Awards 2023 ที่มอบให้กับองค์กรและบุคลากรในวงการตลาดทุนไทย ในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพและยกระดับมาตรฐานและสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว รวม 2 รางวัล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ประกอบด้วย กลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภทรางวัล Best Sustainability Awards สำหรับบริษัทจดทะเบียนฯ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนและหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมกระดาษใช้แล้วเพื่อนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียตามกรอบแนวคิด ESG ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน พร้อมเติบโตด้านเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

 

นอกจากนี้ SCGP ยังได้รับรางวัล SET Awards 2023 ในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภทรางวัล Best Innovative Company Awards จากผลงานนวัตกรรม Detect Odor Monitoring ระบบตรวจวัดและเฝ้าระวังกลิ่นแบบครบวงจร ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเก็บข้อมูลกลิ่นเป็นดิจิทัลและมาประมวลผลโดยสมองกลปัญญาประดิษฐ์ (AI and Machine Learning) และแสดงผลแบบ Real Time ทำให้สามารถบอกอัตลักษณ์และความเข้มข้นของกลิ่นได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการจัดการกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการยกระดับมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมทางอากาศ ซึ่งนำไปสู่การบริหารและจัดการสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ SCGP ได้ผ่านการประเมินความยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ESG Ratings ด้วยระดับ AAA ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทคุณภาพ 

 

นับเป็นความภาคภูมิใจของ SCGP ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สามารถสร้างการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลตามกรอบ ESG ในมิติของสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลได้อย่างยั่งยืนตามมาตรฐานระดับสากล จนเป็นที่ยอมรับและเป็นต้นแบบองค์กรที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทย
 

Mirinda x Major Special set บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ที่ตอบโจทย์คนรักความสนุกทุกเจเนอเรชัน จาก SCGP

เมื่อเอ่ยถึงบรรจุภัณฑ์ คนส่วนใหญ่คงนึกถึงบรรจุภัณฑ์จำพวกกล่องใส่อาหาร จาน ชาม แก้วกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ แล้วถ้าเราลองให้คุณนึกถึงบรรจุภัณฑ์ที่เอนเตอร์เทนขึ้นมาสักชิ้น คุณจะนึกถึงอะไร?

 

วันนี้ SCGP มี “Mirinda x Major Special set” เพื่อเอาใจคนชอบน้ำอัดลมและรักการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ใช้งานได้จริงและสนุกได้มากกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไปมาแนะนำให้รู้จัก

 

ทำไมต้องเป็น กล่องตู้เกมชิงตั๋วหนัง?
ภาษา จุ้ยชุ่ม และ ศิขิน อมรกิจเจริญ สองดีไซเนอร์จาก SCGP คือผู้ออกแบบบรรจุภัณฑ์สุดเจ๋งนี้ จากโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กับเครื่องดื่มโลโก้และลวดลายใหม่ ซึ่งเน้นความสนุกและสีสัน ที่จัดโปรโมชั่นร่วมกับการแจกคูปองตั๋วหนังเพื่อเพิ่มความพิเศษในการแนะนำน้ำอัดลมรีแบรนด์นี้ ดังนั้นทีมจึงคิดว่าบรรจุภัณฑ์ต้องเป็นอะไรที่ใกล้ตัวคนทุกเพศทุกวัยและทุกรสนิยม จึงเป็นที่มาของการออกแบบกล่องให้เป็นลักษณะตู้เกมที่ลูกค้าสามารถ Interact สนุกกับกล่องลวดลายตู้เกมและโรงหนัง ซึ่งเมื่อใช้งานเสร็จแล้วจะต้องไม่ทิ้งไว้ในถังขยะ ต้องทำให้ผู้บริโภคได้ใช้จริงและได้ใช้ต่อแบบคุ้มค่า จึงกำเนิดเป็น ‘Mirinda x Major Special set’ 

 

แล้วจะเป็นตู้เกมได้อย่างไร !?
Mirinda x Major Special set จึงถูกรังสรรค์ขึ้นจากกระดาษลูกฟูก ลอน E ซึ่งเป็นกระดาษคุณภาพดี ไม่เปื่อย ไม่ยุ่ยง่าย ไม่มีกลิ่น สามารถรับแรงกดตามความสูงลอนได้สูงมาก ทำให้คงทน ยืดระยะการใช้งานได้นานขึ้น ส่วนลวดลายต้องดึงดูดผู้บริโภคตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ผู้ออกแบบจึงเนรมิตให้มีลวดลายที่ผสมผสานระหว่างตู้เกม arcade สมัยก่อนและโรงหนัง เพื่อสื่อถึงความสนุก ที่เป็น concept หลักของลูกค้าเครื่องดื่มและลูกค้าโรงหนัง แถมยังเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถใช้งานอย่างคุ้มค่า และนำไปรีไซเคิลเพื่อใช้งานได้ใหม่ด้วย

 

โดยข้างในตัวกล่องจะบรรจุเครื่องดื่มไว้ 4 กระป๋อง ตั๋วหนัง 1 ใบ และคูปองส่วนลดเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น ที่มีลูกเล่นให้ได้ลุ้น โดยสามารถดึงเครื่องดื่มจากฐานด้านล่างของกล่องเกมตามแนวนอน เมื่อดึงกระป๋องแรกออกมา กระป๋องที่เหลือก็จะหล่นลงมาตามล็อกแบบเป็นระเบียบ ตัวกล่องหรือตู้เกมก็จะไม่บุบ หรือเสียทรงจนกว่าจะดึงกระป๋องเครื่องดื่มออกมาให้ครบ เมื่อดึงกระป๋องเครื่องดื่มออกมาจนครบ ก็จะพบกับตั๋วหนังและคูปองลดราคาเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น  แค่คิดก็สนุกแล้ว

 

ผู้บริโภคได้อะไร?
บรรจุภัณฑ์นี้ได้ทั้งประโยชน์การใช้สอยและความสนุก และเมื่อผู้บริโภคสนุกกับเกมก็สามารถเก็บตัวบรรจุภัณฑ์ไปเล่นซ้ำได้อีก ไม่ต้องเก็บความสนุกไว้คนเดียว อาจจะซื้อเครื่องดื่มรสชาติที่คุณชอบ จัดเรียงในช่องล็อกกระป๋อง แล้วจับเข้าไปในตู้เกมอีกรอบ โดยชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาสนุกด้วย และแน่นอนว่าบรรจุภัณฑ์ยังคงความคงทน ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มากสมรรถนะและไม่จำเจ

 

ชิ้นงานสร้างสรรค์ “Mirinda x Major Special set” ของนักออกแบบ SCGP นี้ ถูกใจผู้บริโภคและใช้งานได้จริง และยังได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย สำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาด Consumer Package : CP จากเวที Thaistar Packaging Awards 2021 ด้วย ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ SCGP คิดและสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ สนองความต้องการของทุกชีวิตให้ทันโลกทันสมัยอย่างยั่งยืนและสวยงาม

SCGP รับรางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards จากผลงานนวัตกรรมเตาเผาไหม้เปลี่ยนของเหลือใช้เป็นพลังงานทดแทน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  มอบรางวัล Thailand Energy Awards 2022 รางวัลดีเด่นด้านพลังงานสร้างสรรค์ จัดโดยกระทรวงพลังงาน ให้แก่ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP โดยมี นายอดิศักดิ์ วรคุณพินิจ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ เป็นตัวแทนรับมอบ จากผลงานนวัตกรรมเตาเผาไหม้ระดับโรงประลองเพื่อปรับปรุงการใช้เชื้อเพลิงและส่งเสริมการใช้พลังงานชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพ ที่โดดเด่นในการนำเชื้อเพลิงทางเลือกต่าง ๆ เช่น ใบอ้อย ฟางข้าว เปลือกไม้ เศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร และของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม มาใช้ร่วมกับถ่านหิน ให้สามารถใช้ได้กับหม้อต้มไอน้ำอุตสาหกรรม ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการนำของเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเป็นพลังงาน ลดการพึ่งพาถ่านหินนำเข้าจากต่างประเทศ ส่งเสริมนโยบายของประเทศเรื่องการเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน นำทรัพยากรภายในประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ เกิดประโยชน์โดยองค์รวมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พิธีมอบจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามา การ์เด้น กรุงเทพฯ